ปีกจอมเทคนิคเกือบจะเลิกเล่นฟุตบอล ก่อนจะฉายแสงในลีกเอิง กลายเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก และเป็นตำนานลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ให้ทีมอาร์เซนอล

โรแบร์ ปิแรส ไม่เคยมั่นใจเลยว่าเขาอยากเป็นนักฟุตบอล

ชีวิตรอบตัวเขา เขารู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ขณะที่เพื่อนๆ ในวัย 15 ปีต่างออกไปปาร์ตี้ หาแฟน หรือค้นหาตัวเอง ชีวิตของปิแรสกลับมีแค่ เรียน, ฝึกซ้อม และนอนหลับ ซ้ำไปซ้ำมา

ฟุตบอลมันกลายเป็นธุรกิจที่จริงจัง ดาวรุ่งที่เคยเป็นสตาร์ในทีม ซี ของสโมสรท้องถิ่น ได้รับการจับตามองจากวงการลูกหนัง และการจะพัฒนาขึ้นไปก็ต้องมีการเสียสละ มันมีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งโรแบร์ในตอนนั้น ไม่แน่ใจว่ามันคุ้มค่าดีหรือไม่ จนกระทั่งแม่ของเขาย้ำเตือนให้เขาคิดถึงความฝันของเขา และสิ่งที่วงการฟุตบอลจะมอบให้เขาได้

ด้วยความสามารถในฐานะผู้เล่นตำแหน่งหมายเลข 10 พรสวรรค์ของปิแรสทำให้เขาพุ่งทะยานขึ้นจากระดับเยาวชนะของทีมเมตซ์ ก่อนที่ในวัย 19 ปี เขาจะได้สัญญาอาชีพฉบับแรก ซึ่งฟิลิปป์ ฮินส์ชแบร์เกอร์ โค้ชทีมสำรองในสมัยนั้นขยับเขาออกมาอยู่ทางปีกซ้าย ซึ่งทำให้เปลี่ยนชีวิตนักฟุตบอลของเขาตั้งแต่ตอนนั้น

"เขาเป็นคนแรกที่ให้ผมเล่นปีกซ้าย" ปิแรสกล่าวทาง French Football Weekly "และมันก็ได้ผล นั่นคือจุดเริ่มต้นในเรื่องราวของผม”

ปิแรสได้ลงเล่นนัดแรกในลีกเอิงเมื่อปี 1993 ในเกมพบลียง และกลายเป็นตัวจริงสม่ำเสมอในเวลาอันรวดเร็ว จนคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของลีกเอิงในฤดูกาล 1995-96 ซึ่งมาจากผลงานพาทีมเมตซ์ทะยานจากอันดับ 12 สู่อันดับ 8 ไปอันดับ 4

จากผลงานดังกล่าว ทำให้ยุโรปหันมาจับตามอง หนึ่งในนั้นคือเบนฟิก้า สโมสรที่เขาเชียร์ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่ปิแรสกลับตัดสินใจที่จะอยู่กับเมตซ์ต่อไป "ผมไม่อยากย้ายทีม เพราะผมอยากจะได้เล่นต่อไปเรื่อยๆ และพัฒนาฝีเท้าขึ้นในทีมเมตซ์" ปิแรสกล่าวทาง FourFourTwo

และเขาก็ทำได้ตามที่พูด ในวันที่ 6 เมษายนของปีเดียวกัน ปิแรสคว้าถ้วยแชมป์แรกในชีวิตของเขามาครองได้ หลังจากเป็นคนส่งบอลไปกองก้นตาข่ายในการดวลจุดโทษชี้ขาด ทำให้ได้แชมป์ เฟรนช์ ลีก คัพ เหนือลียง ในรอบชิงชนะเลิศ

ฤดูกาลต่อมา ปิแรสทำประตูในลีกเอิงได้ทั้งสิ้น 11 ประตู เป็นฤดูกาลที่สามติดต่อกัน และพาเมตซ์จบอันดับ 5 ฤดูกาล 1997-98 น่าจะเป็นปีทองของพวกเขา แต่ผลกลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องหัวใจสลายในวันสุดท้าย

ประตูตีเสมอของ Yohan Lachor นักเตะโอแซร์ ทำให้พวกเขาถูกกระชากแชมป์ลีกเอิงในมือส่งให้ลองส์ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาที

"มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆ สำหรับพวกเรา รวมถึงทั้งเมืองด้วย เพราะมันคงเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก หากได้เป็นเมตซ์อยู่ในรายชื่อแชมป์ มันคงจะสุดยอดมากๆ"

แต่ในหน้าร้อนปีนั้น ความสำเร็จครั้งใหญ่กำลังรอเขาอยู่ ปิแรสถูกเรียกตัวติดทีมชาติฝรั่งเศส และมีส่วนช่วยทีมชาติของเขาประสบความสำเร็จในเวิลด์คัพ

เป็นอีกครั้งที่ ปิแรสยังเลือกพัฒนาตัวเองในลีกเอิงต่อไป ด้วยการย้ายไปเล่นให้โอลิมปิค มาร์กเซย แม้ว่าประธานสโมสรเมตซ์จะประท้วงอย่างหนักหน่วง

ปิแรสยังคงทำผลงานกับมาร์กเซยได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่อง จนกระทั่้งถึงปี 2000 เวลาของเขากับลีกเอิงก็ถึงจุดจบ ตลอดเวลา 228 นัด ปิแรสทำได้ 51 ประตู ทว่าไม่มีแชมป์ลีกมาครอบครองเลย

ปิแรส ถูกอาร์เซน่อลยื่นข้อเสนอเข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ  เขาใช้เวลาซักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกย้ายไปเล่นให้กับ อาร์เซนอล ในฤดูกาลต่อมา นั่นคือก้าวที่สำคัญที่สุดสำหรับปีกร่างอ้อนแอ้นรายนี้  เพราะนั่นมันทำให้เขาได้เปิดประตูไปพบกับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่วงการฟุตบอลจะมอบให้แก่เขาได้  มันทำให้เขาได้เริ่มไล่ใขว่คว้าความฝันของเขาอีกครั้ง....