ย้อนรอยศึกผี-ปืนปี2003 เกมเดือดสุดในรอบ2ทศวรรษ
TG.Thaigunners@gmail.com
+6696-293-9839

COLUMNISTS

ย้อนรอยศึกผี-ปืนปี2003 เกมเดือดสุดในรอบ2ทศวรรษ

2466 19-11-2016 Share

อย่างที่ทราบกันดี โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซน่อล มีปมประเด็นกันอยู่ตลอด ดังนั้น ถ้ามันจะเป็นสาเหตุให้เกมนัดนี้ระเบิดปะทุก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

สำหรับคู่ระหว่างแมนฯยูไนเต็ด กับอาร์เซน่อล ถ้าถามว่าเกมไหน มีปมประเด็นความเดือด ก็มีหลายเกมให้พูดถึง ทั้งในปี 2004  เกมที่ปาทริก วิเอร่า ปะทะกับรอย คีนก่อนเกมที่อุโมงค์ในไฮบิวรี่ หรือในเกมปี 2007 ที่วิลเลียม กัลลาส มายิงตีเสมอนาทีสุดท้ายที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

แต่ถ้าพูดถึงแมตช์ที่เดือดที่สุดของคู่นี้ ตั้งแต่พรีเมืยร์ลีกก่อตั้ง แน่นอนว่า ต้องเป็นเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ในปี 2003 ซึ่งเกมนั้นเสมอกัน 0-0 แต่ความมันส์ ความเดือด และปมประเด็นต่างๆ เกิดขึ้นมากมายจริงๆ

วันนี้เราย้อนจะย้อนกลับไปดูเรื่องราวในเกมนั้นอีกครั้ง ที่ต้องบอกว่า ย้อนนึกถึงทีไร ก็ตื่นเต้นทุกที

1. มีเค้าลางความเดือดก่อนเตะ 6 อาทิตย์

ก่อนจะถึงวันแข่งในลีกที่โอลด์แทรฟฟอร์ด คู่นี้ เจอกันมาก่อนในรายการคอมมิวนิตี้ ชิลด์ที่คาร์ดิฟฟ์ ผู้ตัดสินสตีฟ เบนเน็ตต์ (ซึ่งตัดสินเกมในอีก 6 สัปดาห์ต่อมาด้วย) ให้ใบเหลืองฟิล เนวิลล์ และ แอชลีย์ โคลตั้งแต่ 2 นาทีแรก

มิกาเอล ซิลแวสต์ และ เธียร์รี่ อองรี ยิงคนละเม็ด จนเกมเสมอกัน 1-1 ก่อนที่แมนฯยู จะชนะจุดโทษไป ซึ่งนักเตะอาร์เซน่อลเดือดดาลมากๆ ที่แมนฯยูไนเต็ด ดีใจเกินกว่าเหตุ  แต่ดราม่าจริงๆเกิดขึ้นก่อนที่จะเตะลูกโทษ

เพราะฟรานซิส เจฟเฟอร์สของอาร์เซน่อลโดนไล่ออก จากการไปเตะแกรี่ เนวิลล์ แต่ในขณะเดียวกัน เอริค เฌมบ้า เฌมบ้า กลับไม่โดนไล่ออกทั้งๆที่ไปอัดใส่โซล แคมป์เบลล์ จากนั้นพอแคมป์เบลล์ฟิวส์ขาดไปเอาคืน กลับโดนลงโทษย้อนหลังอีก 2 หมื่นปอนด์อีกต่างหาก

 2. ใบแดงวิเอร่า เหตุจุดชนวน

 เกมเริ่มขึ้น ในเดือนกันยายน ครึ่งแรกผ่านไปด้วยความตึงเครียด

เกมเข้าสู่ครึ่งหลัง จังหวะสำคัญก็เกิดขึ้น รุด ฟาน นิสเตลรอย กระโดดกดปาทริก วิเอร่า ลงไปกับพื้น อาร์เซน่อลได้ฟาวล์ แต่วิเอร่า ได้ออกลูกถีบเป็นเชิงตอบโต้

จังหวะนี้ไม่โดนตัวนิสเตลรอย แต่หัวหอกดัตช์กระโดดหนี แล้วฟ้องผู้ตัดสินสตีฟ เบนเน็ตต์ทันที  กรรมการเดินมา แจกใบเหลืองสองให้กับวิเอร่า ไล่ออกจากสนาม

จากนั้น วิเอร่า ปรี่เข้าไปจะเอาเรื่องกับฟาน นิสเตลรอย ข้อหาโอเวอร์แอ็กติ้ง แต่สุดท้ายโดนแยกตัวออกไปก่อน  ชนิดที่เกือบจะมีเรื่อง ตอนนี้อาร์เซน่อลเหลือ 10 คน !

  3. จุดโทษปัญหา

เกมที่เดือด และเครียดอยู่แล้ว อาร์เซน่อลยันไว้ได้จนถึงนาที 90+1 มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นในสนามอีก เมื่อ แมนฯยูไนเต็ดมาได้จุดโทษช่วงทดเจ็บ จากจังหวะปัญหา

ผู้ตัดสินสตีฟ เบนเนตต์ เป่าว่ามาร์ติน คีโอว์นไปผลักดีเอโก้ ฟอร์ลันในเขตโทษ ในจังหวะ 50-50 ที่ให้ก็ได้ไม่ให้ก็ได้ แต่เขาเลือกจะให้จุดโทษทีมปีศาจแดง ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายของเกม ท่ามกลางการประท้วงอย่างหนัก ผู้ตัดสินไม่เปลี่ยนใจ เป็นการดวลกันของรุด ฟาน นิสเตลรอย กับ เยนส์ เลห์มันน์

 4. ฟาน นิสเตลรอย พลาด !

ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ฟาน นิสเตลรอย ที่ยิงจุดโทษได้อย่างเฉียบคม ซัดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งไปชนคานดังสนั่น ไม่เป็นประตู ทั้งๆที่เลห์มันน์พุ่งผิดทางไปแล้ว

จากนั้นอีกไม่กี่วินาทีผู้ตัดสินสตีฟ เบนเนตต์ ก็เป่านกหวีดหมดเวลาทันที ทำให้เกมเสมอกันไป 0-0 ! จริงๆเกมนั้น แมนฯยูไนเต็ด ถ้าชนะพวกเขาจะขึ้นเป็นจ่าฝูงด้วย แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้

        

5. สงครามเดือดหลังจบเกม

พอผู้ตัดสินเบ็นเนตต์เป่านกหวีดหมดเวลา นักเตะอาร์เซน่อล กระโดดรุมอัดรุด ฟาน นิสเตลรอยกันดื้อๆ คีโอว์นเอาตัวกระแทก โลรอง เอตาเม่ และ เรย์ พาร์เลอร์ รุมตบรุมผลักกันอย่างสะใจ

ขณะที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เกือบมีเรื่องกับนักเตะอาร์เซน่อล เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นหลายนาที กว่าที่ทุกอย่างจะสงบลงได้

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้อาร์เซน่อล โดนปรับเงินมหาศาลถึง 175,000 ปอนด์ ซึ่งเป็นโทษปรับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก (ก่อนจะโดนทำลายในเกมระหว่าง เชลซีกับสเปอร์ส ในฤดูกาลที่แล้ว) นอกจากนั้น นักเตะหลายคนโดนปรับเงิน ไม่ว่าจะเป็นมาร์ติน คีโอว์น , ปาทริก วิเอร่า , เรย์ พาร์เลอร์ ,โลรอง เอตาเม่ และ แอชลีย์ โคล ส่วนฝั่งแมนฯยูไนเต็ด มีไรอัน กิ๊กส์ และโรนัลโด้ที่โดนปรับเงิน

6. เวนเกอร์ - เฟอร์กี้ เดือด !

อาร์แซน เวนเกอร์ โจมตีฟาน นิสเตลรอยอย่างหนักหน่วง โดยให้สัมภาษณ์ว่า "ฟาน นิสเตลรอยเป็นผู้เล่นที่ดี แต่ทัศนคติของเขา เขาจ้องจะพุ่งตลอด จริงๆเขาก็ดูเป็นเด็กดีนะ แต่พออยู่ในสนาม เขาเล่นไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่"

"ถ้าหากปาทริก วิเอร่า โดนไล่ออก ผมว่าฟาน นิสเตลรอย ก็ต้องโดนไล่ออกไปด้วยจากการพุ่งหลายๆครั้งของเขา"

"ในจังหวะที่โดนไล่ออก จริงอยู่วิเอร่า ไม่ควรแสดงปฏิกริยาแบบนั้น แต่ผมคิดว่า บทลงโทษมันรุนแรงเกินไป ทั้งๆที่ปัญหามันเล็กนิดเดียว"

ส่วน อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกมาปกป้องฟาน นิสเตลรอย โดยกล่าวว่า "ผมปกป้องรุดนะ ผมได้ยินคำสัมภาษณ์ของอาร์แซนแล้ว จังหวะนั้น วิเอร่า มีปฏิกริยาที่ไม่ดี รุดไม่ได้พุ่งหรืออะไร"

"ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไล่ออก และในเกมที่ดุเดือดแบบนี้ ผมคิดว่านักเตะตัวเอง ประพฤติตัวได้ดีเลยทีเดียว"

 7. ฟาน นิสเตลรอย ไม่เคยแคร์ ถึงวันนี้ก็ยังไม่แคร์

ถึงแม้จะเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด แต่ฟาน นิสเตลรอย ระบุว่า เขาไม่เคยสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น

หลังจบเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ปาทริก วิเอร่า ยืนรอในห้องแต่งตัวเตรียมจะเอาเรื่องกับเขา แต่ เขาก็ไม่สนใจและเดินหนีผ่านไปเลย ในใจของเขาคิดถึงแต่เรื่องการพลาดจุดโทษเท่านั้น เหตุการณ์จากนั้นที่เขาโดนรุม ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากแล้ว

ในช่วงชีวิตการค้าแข้ง เขาพลาดจุดโทษน้อยมาก พอถึงห้องแต่งตัว ก็นั่งวิเคราะห์ว่า ทำไมเขาถึงพลาดจังหวะนั้นได้ ทำให้ไม่ได้สนใจประเด็นเดือดอื่นๆ

เวลาผ่านไป ยังมีคนมาถามความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับเกมนี้อยู่เสมอซึ่งเขาก็ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาแต่อย่างใด

8. อาร์เซน่อลไม่แพ้เกมนี้ ก่อนปิดฉากซีซั่นแบบไร้พ่าย

นั่นเป็นฤดูกาล 2003-04 ที่อาร์เซน่อลได้แชมป์แบบไม่แพ้ใครทั้งฤดูกาล และยังคงเป็นทีมเดียวในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทำได้

หลายคนบอกว่า ถ้าเกมนั้นฟาน นิสเตลรอย ซัดจุดโทษเข้าไป ตำนานไร้พ่ายก็ไม่เกิดแล้ว และอาร์เซน่อลอาจไม่ได้แชมป์ด้วยซ้ำ

จากเหตุการณ์ตะลุมบอน ส่งผลให้นักเตะโดนแบนถึง 4 ราย  โลรอง สี่นัด , คีโอว์น 3 นัด ,เรย์ พาร์เลอร์ และปาทริก วิเอร่า อีกคนละ 1 นัด แต่การโดนแบนก็ไม่ได้ส่งผลต่อทีมปืนใหญ่แต่อย่างใด พวกเขายังคงแข็งแกร่ง และไม่พ่ายแพ้ใครแม้แต่เกมเดียว

        

9. เกมวันเสาร์นี้จะเดือดสุดยอดเหมือนปี 2003 หรือไม่

เราไม่มีทางรู้ แต่อย่าลืม นี่คือการปะทะกันของโชเซ่ มูรินโญ่ กับอาร์แซน เวนเกอร์ เหตุการณ์ไม่คาดคิดย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น !

ติดต่อโฆษณา : TG.Thaigunners@gmail.com PHONE : 096 443 2589

THE HONOUR

FACEBOOK : GUNNERTALK

EMAIL : TG.Thaigunners@gmail.com

TEL : +6696-293-9839