5 เหตุผลที่ปืนโตไม่มีทางไปถึงฝัน
TG.Thaigunners@gmail.com
+6696-293-9839

COLUMNISTS

5 เหตุผลที่ปืนโตไม่มีทางไปถึงฝัน

3621 19-4-2016 Share

ในขณะที่เลสเตอร์จบลงด้วยการเจ๊า ในขณะที่โอกาสทำแต้มจี้ติดเห็นกันอยู่รอมร่อ ก็เป็นอีกครั้งที่ลูกทีมของ อาร์เซน เวนเกอร์ มิอาจพิชิต "มารผจญ" ในจิตใจของตนได้ 


ผลเสมอ 1-1 ในเกมล่าสุดต่อคริสตัล พาเลซ ช่างน่าผิดหวัง ถึงตรงนี้กับอีก 13 แต้มที่ตามหลังอยู่พร้อมโปรแกรมที่เหลืออยู่เพียง 5 นัดก็เกือบจะเป็นที่การันตีหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วครับว่า ทีม "ปืนโต" กำลังจะหมดลุ้นแชมป์ลีกอย่างเป็นทางการราวกับวนลูปเดิมอย่างไม่มีสิ้นสุด

 

จากเดิมที่ออกสตาร์ทแรงช่วงต้นฤดูกาล ทว่าเมื่อถึงยามคับขันอาร์เซน่อล มักจะออกอาการแผ่วปลาย และ แสดงลูกลนลานให้เห็นจนกลับไปสู่ท็อป 4 ทุกที ถึงตรงนี้อย่าว่าแต่ลุ้นแชมป์ กระทั่งลุ้นไปชปล. จากเดิมที่ว่าแน่แต่กับอีก 5 เกมที่เหลือทีม “ปืนใหญ่” ยังต้องเหนื่อยหนักเพราะอะไรอาร์เซน่อลถึงไม่เคยไปถึงฝั่งฝัน !? เพราะเหตุใดทีมปืนโตภายใต้ยุค อาร์เซน เวนเกอร์ ถึงวนเวียนอยู่กับวัฏจักรเดิมๆในทุกปี !?

 

วันนี้ในฐานะสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” คนหนึ่ง ผมขออนุญาตสรุป "5 เหตุผลที่ปืนโตไม่มีทางไปถึงฝัน" ครับ :

 




1.ขาดหัวหอกระดับพระกาฬ

นี่เป็นปัญหาเดิมๆที่แฟนบอลชาวกูนเนอร์สต่างพร่ำบอกกันทุกปีทว่ากลับไร้หัวเรือใหญ่ที่คอยใส่ใจ..

จากวันที่มี เดนนิส เบิร์กแคมป์ เป็นเสาหลัก จากยุคที่ เธียร์รี่ อองรี สุดเปรี้ยงปร้าง กาลเวลาผ่านไปนำพาให้อาร์เซน่อลพบกับหายนะในแดนหน้า  เอ็มมานูเอล อเดบายอร์  กับ โอกาสสุดเปลืองที่ทำให้หลายฝ่ายถึงกับต้องส่ายหัว, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่แม้จะร้อนแรงในปีสุดท้ายที่อยู่กับทีมแต่ก่อนหน้านั้นกลับเจ็บออดๆ แอดๆ กระทั่งตัวหลักก็ยังมิเคยได้เป็น

ทว่าความบรรลัยในยุคนั้นกลับยังไม่ร้อนแรงเท่าเจเนเรชั่นนี้ นับตั้งแต่เปลี่ยนระบบมาเล่นเป็น 4-5-1 บรรดาหัวหอกของทีมปืนโตไม่ต่างกับสากเข้าสิง ตัวความหวังหลายรายอย่าง ลูคัส โพโดลสกี้ ต่างพากันเข้ามาลองของ

แต่แทบทุกครั้งก็ต้องจบลงด้วยความล้มเหลว  โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันนอกจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่ดึงดูดสายตา แดนนี่ เวลเบ็ค กับเส้นทางที่ไปไม่สุดพร้อมโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน รวมถึง ธีโอ วัลค็อตต์ ที่แม้จะอยู่มาทุกยุคทว่ากลับไม่สามารถสอดแทรกเป็นตัวหลักได้เลย ..

บางทีทีม “ปืนโต” น่าจะลองอัญเชิญ เธียร์รี่ อองรี กลับมาเล่น หรือ หัดขอพร-ทำบุญซะบ้าง อาถรรพ์ในแดพนหน้าจะได้สิ้นสุดเสียที


2.ระบบลูกรัก

ว่ากันว่าเฮดโค้ชทุกคนย่อมมีลูกรักในดวงใจ ก็แน่นอนว่ากับ "อาร์เซน เวนเกอร์" เองก็เช่นเดียวกัน

ในอดีตนายใหญ่ชาวเฟร้นช์แมนขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการอคาเดมี่ ดาวรุ่งหลายรายต่างเจอ เวนเกอร์ สวมบท “ป๋าดัน” จนได้ดิบได้ดีกันมากมาย แต่กับปัจจุบันนายใหญ่ทีมปืนโตกลับรักลูกผิดทาง และ มักทำเรื่องสวนกระแสที่ขัดใจแฟนบอล

เราคงเคยได้เห็นนักเตะอย่าง "อารอน แรมซี่ย์" ที่กว่าจะมีวันนี้ต้องผ่านการด่าทอจากสาวกมามากมาย ย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีก่อนดาวเตะทีมชาติเวลส์สามารถเบียดเสียดนักเตะซีเนียร์หลายรายให้เป็นแค่สำรองได้ทั้งที่บ่อยครั้งสกิลการม้วน และ การจ่ายดูจะขัดใจแฟนๆ

หรือหากจะเอ่ยให้เห็นภาพชัดเจนมากกว่านั้น กับ "ธีโอ วัลค็อตต์" ในซีซั่นนี้เป็นตัวอย่างที่ดี  ในขณะที่ โจเอล แคมป์เบลล์ เริ่มฉายแววออกมา อาร์เซน เวนเกอร์ กลับดับฝันแข้งจากคอสตาริกาแต่กลับมอบโอกาสให้กับดาวเตะอย่าง วัลค็อตต์ ที่หยุดพัฒนาการมาหลายปี ผลก็คือเกมรุกทางกราบขวาช่างตีบตัน เวนเกอร์โดนจวกเละจนสุดท้ายต้องกลับลำดร็อปแข้งความเร็วสูงออก พร้อมให้โอกาส อเล็กซ์ อิโวบี้ แทน

อย่างไรก็ตาม ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ไม่ลืมที่จะใช้บริการลูกรักในยามขับขั้นอยู่เนืองๆดังเช่นในเกมล่าสุดที่เจ๊าพาเลซ 1-1 แม้ว่า แคมป์เบลล์ จะนั่งเฝ้ารอโอกาสอยู่ทนโธ่ก็ตาม โบราณว่า "รักวัวให้ถูก รักลูกให้ตี" บางทีถ้า อาร์เซน เวนเกอร์ ยังไม่ยอมลงโทษแข้งที่พิสวาสแต่กลับหมางเมินดาวเตะที่เจิดจรัสฉายแสง ก็คงเป็นเรื่องยากที่เราจะได้พบกับ "ดาวรุ่งดวงใหม่" ก้าวขึ้นมา

 



3.แท็คติกเดิมๆ

เป็นที่รู้กันดีว่า อาร์เซน เวนเกอร์ คือกุนซือที่ไม่ต่างกับคอมพิวเตอร์ หากในหัวของนายใหญ่มาดละเมียดเซ็ตแผนแบบใดไว้แล้วก็ย่อมเป็นธรรมดาที่เราจะได้เห็น “ป๋าเวน” เล่นตามสไตล์ที่มีไว้แบบนั้นโดยไม่ใส่ใจว่า คู่แข่งที่จะต้องดวลจะเล่นบอลรูปแบบใด

ผลของการ “One Way Tactic” ทำให้เกมรุกของปืนโตไร้จินตนาการ และ ดักทางได้ง่าย ยามเจอกับคู่แข่งที่รับลึกถึงกระนั้นเกมรุกไอปืนใหญ่ก็ยังเดินหน้าถ่ายบอลออกข้างพร้อมตบเข้ากลางต่อไป ไม่เว้นกระทั่งการเปลี่ยน

ตัวที่ทันทีที่ขยับม้านั่งสำรอง สาวก “กูนเนอร์ส” หลายรายสามารถทราบใดทันทีว่า  เจ้าตัวจะเปลี่ยนตัวนาทีที่เท่าไหร่ และ ผู้เล่นคนใดที่จะได้โอกาสลงสนาม ..

เรื่องนี้จะว่าไปก็ไม่ได้มีแต่แฟนบอลที่ล่วงรู้ กระทั่งนักเตะยังอดใจไม่ไหวที่จะเอื้อนกล่าว ครั้งหนึ่ง อังเดร อาร์ชาวิน เคยหลุดปากออกมาว่า “ผมสามารถเดาได้ทันทีว่า ผมจะถูกถอดออกในนาทีที่ 75 ของเกม ไม่ว่าแมตช์นั้น ผมจะทำผลงานโดดเด่นแค่ไหนก็ตาม” ผลพวงจากการออกมาพูดจาขวานผ่าซากในครั้งนั้นทำให้ อาร์ชาวิน ที่เคยเปรียบดั่งขวัญใจของแฟนๆ หลุดจากทีม และ ไม่เคยกลับมาเป็นตัวหลักอีกเลย ..


4.ขาดผู้นำจิตวิญญาณ

เป็นธรรมดาของทีมที่ประสบความสำเร็จในการจะต้องมีผู้นำที่เปรียบดั่ง "จิตวิญญาณ" ในสนาม ในอดีตอาร์เซน่อลเคยมี ปาทริค วิเอร่า พร้อมนำทัพพาทีมเกรียงไกรมาแล้ว ทว่ากับทีมชุดปัจจุบันกลับไม่มีสิ่งนี้ให้เห็น
มาติเยอ ฟลามินี่ แม้จะตะโกนโหวกเหวกโวยวาย และ ดูเป็นผู้นำทีมได้ทว่าจากฟอร์มการเล่นที่ไม่เอาอ่าว และ สุดบ่อของเจ้าตัวก็ทำให้ความเชื่อถือที่มิตรสหายเคยมีกลายเป็น "เสื่อมศรัทธา"

แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ เป็นอีกรายที่โดดเด่นในเรื่องการสั่งการแต่กับวินาทีนี้กระทั่งตัวเองยังเอาตัวไม่รอดพร้อมตกเป็นสำรองของ กาเบรียล อยู่บ่อยครั้ง  ปีเตอร์ เช็ก ด้วยวัยวุฒิเหมาะสมทุกประการกับผู้นำทีมคนใหม่แต่จาก

การเข้าสู่ทีมได้ไม่นานทำให้บารมียังไม่เพียงพอ มิต้องพูดถึง มิเกล อาร์เตต้า กัปตันตัวจริงที่สุดโรยรา และ ไม่ใช่ตัวหลักของทีมอีกต่อไป

ดังนั้นในการจะหาผู้นำบนสังเวียนซักคนของทีมจึงเป็นเรื่องที่แทบปวดหัวกุมขมับชนิดที่ อาร์เซน เวนเกอร์ น่าจะปวดกบาล




5. ชายที่ชื่อ "เวนเกอร์"

เป็นความจริงที่สุดเจ็บปวด และ เชื่อว่า แฟนบอลปืนใหญ่ทุกครั้งคงไม่อยากได้ยิน แต่ถึงตรงนี้ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วครับว่า  ส่วนหนึ่งของปัญหาที่คาราคาซังมาเนิ่นนาน และ ทำให้ทีมไปไม่ถึงใฝ่ฝันส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ เขาผู้นี้นี่แหละ

นับจากวันที่พาอาร์เซน่อลเถลิงบัลลังแชมป์ลีกพร้อมสร้าง "ตำนานไร้พ่าย" อย่างยิ่งใหญ่ กาลเวลาผ่านไป ความสำเร็จทำให้อีโก้ในตัวที่มีของ เวนเกอร์ เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ แล้วความมั่นใจในตนเองที่สูงปรี๊ดจนเกินไปก็เปรียบดั่งขวากหนามที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเอง

เวนเกอร์เริ่มที่จะยึดมั่นในแนวคิดของตนเป็นหลักพร้อมกับมิฟังเสียงรอบข้างกาย  แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากแฟนบอลถึงสไตล์การเล่นที่ไร้จินตนาการ, ระบบลูกรัก รวมถึง การเจียดเงินคว้าซูเปอร์สตาร์พร้อมเสริมให้ถูกจุด

ในวันที่มีเงินในคลังเป็นถุงเป็นถัง  ทว่าสุดท้าย กุนซือคนเก่งก็มิเคยปรับปรุงพร้อมยังปล่อยให้ปัญหานี้คาราคาซังมาเนิ่นนาน

ถึงตรงนี้ก็เป็นอันว่า อาร์เซน่อลมีอันต้องชวดลุ้นแชมป์ลีกอีกปีแล้วมิหนำซ้ำยังต้องลงไปจับจองอันดับ 4 เหมือนดั่งเคยอีก  หาก อาร์เซน เวนเกอร์ เริ่มตระหนักถึงปัญหา ใส่ใจเสียงรอบข้างพร้อมปรับปรุงตนเองก็คงยังไม่สายที่ทีมปืนโตจะกลับมาเข้าวิน

ทว่าหาก เจ้าตัวยังคงเฉยเมยกับปัญหา เชื่อมั่นในตนเองเป็นหลัก ไม่ปรับทัศนคติพร้อมด่ากราดแฟนบอลที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า ไร้ประสบการณ์การคุมทีม ..

หากออกมาในรูปนี้ แฟนบอลปืนใหญ่เตรียมทำใจ และ เชื่อผมได้เลยครับว่า อาร์เซน่อลคงไม่แคล้ววนลูปเดิมพร้อมร้างแชมป์ลีกไปอีกหลายปี ..

และคงวนเวียนเช่นนี้ไม่จบไม่สิ้น ตราบใดที่ชายที่ชื่อ "อาร์เซน เวนเกอร์" กุมบังเหียน 

 

คอลัมน์ตุงตาข่าย by มาสเตอร์ ริท

ติดต่อโฆษณา : TG.Thaigunners@gmail.com PHONE : 096 443 2589

THE HONOUR

FACEBOOK : GUNNERTALK

EMAIL : TG.Thaigunners@gmail.com

TEL : +6696-293-9839