แม้จะโดนทิ้งห่างไปก่อน 2-0 แต่ช้างศึกที่เล่นท่ามกลางแฟนบอลราวครึ่งแสนก็ไม่ยอมแพ้จนไล่แบ่งแต้มอันดับ 7 แห่งเอเชียในช่วงท้ายเกมไปแบบได้ใจ

เวลา 19.00 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบสอง โซนเอเชีย นัดที่ 3 ของทีมชาติไทย อันดับ 137 ของโลก ที่มี 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัด เปิดบ้านพบกับ ทีมชาติอิรัก อันดับ 82 ของโลกแะอันดับ 7 แห่งเอเชีย ที่เพิ่งประเดิมสนามด้วยการเปิดรังถล่ม ทีมชาติไต้หวันมา 5-1

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือช้างศึกยึด 11 ผู้เล่นจากเกมอุ่นเครื่องชนะอัฟกานิสถานทั้งหมด นำโดยกองหน้าตัวเป้า ธีรศิลป์ แดงดา พร้อมแนวรุกอย่าง สรรวัชญ์ เดชมิตร , เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ มงคล ทศไกร รวมถึงแกนหลักทั้ง สารัช อยู่เย็น , สิทธินันท์ พุกหอม และ ธีราทร บุญมาทัน

ส่วนทัพ "สิงโตแห่งเมโสโปเตเมีย" นำมาโดย ยูนิส มะห์มูด กองหน้าจอมเก๋ากัปตันทีม พร้อมดาวดังอย่าง อาลี อั๊ดนาน แบ็คซ้ายจากอูดิเนเซ่ รวมถึงผู้เล่นหลักทั้ง อาลี กอซิม และ ดุรกอม อิสมาอีล

เริ่มเกมเป็นทางอิรักที่ครองบอลบุกเข้าใส่ แต่นาทีที่ 3 ไทย ได้โอกาสลุ้นจบสกอร์ครั้งแรกก่อนจากจังหวะที่ ปกเกล้า อนันต์ ซัดไกลประมาณ 25 หลาข้ามคานออกไป

ถัดมานาทีที่ 13 อิรัก ได้โอกาสทองที่จะขึ้นนำเมื่อ ยูนิส มะห์มูก ได้ฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเต็มแรงในเขตโทษ แต่ กวินทร์ ธรมสัจจานันท์ ก็ยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกหลัง

จากนั้นยังเป็น อิรัก ที่เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ไทยส่วนใหญ่ นาทีที่ 21 พวกเขาพลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายอีกครั้งเมื่อ ยูนิส มะห์มูด ได้บอลในเขตโทษก่อนดึงจังหวะหลอกแนวรับช้างศึก แล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาสองทว่า อาลี ฮิสนี ไฟซอล เข้าชาร์จไม่ถึงเพียบคืบ

นาทีที่ 28 ไทย ได้ลุ้นแบบห่างๆบ้างเมื่อได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษก่อนจะเป็น ปกเกล้า อนันต์ ตะบันด้วยขวาก็ยังข้ามคานออกไป

แต่แล้วนาทีที่ 33 อิรัก ก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 สำเร็จจากจังหวะที่ จัสติน มีรอม ลากจี้เข้ากรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจกดด้วยขวาเข้าไปอย่างเด็ดขาด

เท่านั้นไม่พอนาทีที่ 36 อิรักหวิดได้ประตูที่สองทันทีจากจังหวะที่ อาลี ฮิสนี ไฟซอล ตักบอลข้ามแนวรับช้างศึกให้ อาลี อั๊ดนาน หลุดไปยิงแต่ยังดีที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ออกมาเซฟได้ทันเวลา

ก่อนที่นาทีที่ 40 ไทย ชวดตามตีเสมออย่างน่าเสียดายเมื่อ ธีรศิลป์ แดงดา รับบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายคืนหลังให้ สรรวัชญ์ เดชมิตร วิ่งมาแปด้วยซ้ายหลุดเสาสองหวุดหวิด ทำให้จบครึ่งแรกมีสกอร์ตามหลัง อิรัก อยู่ 0-1

กลับสู่ครึ่งหลัง ไทย ถอด สุทธินันท์ พุกหอม ออกแล้วส่ง ประทุม ชูทอง ลงเล่นแทน

ก่อนที่นาทีที่ 49 สถานการณ์ ไทย กลับแย่ลงไปอีกเมื่อ สารัช อยู่เย็น โดน ยูนิส มะห์มูด ฉกบอลลากไปยิงแม้ว่าจังหวะแรกจะติดเซฟ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แต่เจ้าตัวก็ตามซ้ำเข้าไปง่ายๆ ให้ อิรัก หนีห่างเป็น 2-0

และนาทีที่ 51 ประทุม ชูทอง ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงมาถูกใบเหลืองแรกของเกมหลังไปทำฟาวส์ใส่ ยูนิส มะห์มูก

อิรักยังไม่เพลาเกมบุกนาทีที่ 58 อาลี ฮิสนี ไฟซอล วอลเลย์แบบไม่จับในเขตโทษ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ต้องออกแรงทุบทิ้งออกหลัง

นาทีที่ 60 ไทยก็ขยับเปลี่ยนตัวคนที่สองโดยส่ง ธนา ชะนะบุตร ลงเล่นแทน เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์

จากนั้น ไทย ที่มีสกอร์เป็นรอง ก็พยายามเปิดเกมบุกมากขึ้น นาทีที่ 68 ธีรศิลป์ แดงดา เปิดยัดจากขวาเขตโทษ แนวรับอิรักสกัดไม่ดีเข้าทางปืน ปกเกล้า อนันต์ ตั้งเป้าวอลเลย์ เฉี่ยวเสาสองออกหลังไปนิดเดียว

นาทีที่ 71 ไทย ได้จังหวะลุ้นประตูตีเสมอต่อเนื่อง ครานี้เป็น ทริสตอง โด บรรจงเปิดจากเข้าหัวในเขตโทษ มงคล ทศไกร ทำเอา นูร ซอบรี อับบาส กระโดดปัดทิ้งออกหลังปลายมือ

นาทีที่ 77 ไทย ส่งไพ่ใบสุดท้ายโดยเอา ศราวุฒิ มาสุข ลงมาแทน สรรวัชญ์ เดชมิตร

และนาทีที่ 79 ศราวุฒิ มาสุข ก็แผลงฤทธิ์ทันทีเมื่อเรียกจุดโทษให้ ไทย ก็จะเป็น ธีราทร บุญมาทัน รับหน้าที่สังหารเสียบใต้คานให้ทีมไล่มาเป็น 1-2

จากนั้นนาทีที่ 83 แฟนบอลไทยในราชมังคลากีฬาสถานก็ได้เฮกันสุดขีดเมื่อ มงคล ทศไกร ชาร์จ ประตูตีเสมอให้ทีมไล่มาเป็น 2-2 ก่อนจบ 90 นาทีนี้ด้วยสกอร์นี้ ทำให้ ทีมชาติไทยเก็บ 1 แต้มสำคัญ โดยมีเพิ่มเป็น 7 คะแนนจาก 3 นัด

โปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย จะบุกไปเยือน ทีมชาติเวียดนาม ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นัดที่ 4 วันที่ 13 ตุลาคมนี้

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

ทีมชาติไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK) - ทริสตอง โด , สุทธินันท์ พุกหอม (ประทุม ชูทอง น.46) ,กรวิทย์ นามวิเศษ , ธีราทร บุญมาทัน (C) - สารัช อยู่เย็น - มงคล ทศไกร , ปกเกล้า อนันต์ , สรรวัชญ์ เดชมิตร , เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (ธนา ชะนะบุตร น.60) - ธีรศิลป์ แดงดา

ทีมชาติอิรัก : นูร ซอบรี อับบาส (GK) - ซาเมห์ สะอิ๊ด , ดุรกอม อิสมาอีล, อะเหม็ด อิบราฮิม, อาลี อั๊ดนาน -สลาม ชากิร, อาลี ฮิสนี ไฟซอล, อาลี กอซิม, สะอั๊ด อับดุลอะมีร - ยูนิส มะห์มูด, จัสติน มีรอม