ภายหลังชัยชนะท่วมท้นของ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ทีมดังแห่งลีกอังกฤษ เหนือ สลาเวีย ปราก ถึงถิ่น 4-0 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก ด้วยสกอร์รวม 5-1

ซึ่งเกมดังกล่าวมีเสียงวิจารณ์ถึงการแสดงออกของผู้เล่นทั้งสองทีม ช่วงก่อนเริ่มเกมการแข่งขัน ถึงพิธีต่อต้านการเหยียดผิวและเชื้อชาติ โดยคณะผู้ตัดสิน เหล่าสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะทั้งหมดของ อาร์เซนอล ต่างนั่งคุกเข่าเพื่อแสดงการต่อต้าน ทว่าผู้เล่นของ สลาเวีย ปราก ที่มีแต่นักเตะผิวขาว กลับยืนกอดคอเรียงหน้ากระดานกัน

โดยการแข่งขันนัดนี้นักเตะ อาร์เซนอล ที่ทำ 4 ประตู ล้วนแต่เป็นผู้เล่นผิวสีทั้งสิ้น ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของ อาร์เซนอล กล่าวชื่นชมลูกทีมถึงความกล้าหาญที่แสดงออกในนัดนี้เช่นกัน

สำหรับสาเหตุที่ สลาเวีย ปราก ไม่ยอมคุกเข่านั้น เกิดขึ้นจากการแข่งขัน ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ที่พบกับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ โดยนัดดังกล่าวผู้เล่นทั้งสองทีมต่างมีปากเสียงกัน ระหว่าง ออนเดรย์ คูเดล่า แข้ง สลาเวีย ปราก กับ เกลน คามาร่า อดีตนักเตะ อาร์เซนอล ของ เรนเจอร์

ทั้งนี้มีการระบุว่า คูเดล่า ได้ใช้คำพูดเหยียดผิวใส่ คามาร่า หลังถูกผู้เล่นรายนี้ทำร้ายร่างกาย โดย คามาร่า ถูกแบนแค่ 3 นัด ขณะที่ คูเดล่า ถูก ยูฟ่า แบนถึง 10 นัด ส่งผลให้ผู้เล่น สลาเวีย ปราก ไม่พอใจต่อการตัดสินลงโทษดังกล่าว พร้อมกับแสดงออกด้วยการไม่คุกเข่าเพื่อประท้วงต่อ ยูฟ่า นั่นเอง