• ไค ฮาแวร์ตซ์ 65 ล้านปอนด์จาก เชลซี

• ยูร์เรียน ทิมเบอร์ 34+4.5 ล้านปอนด์จาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม

• และ ดีแคลน ไรซ์ 100+5 ล้านปอนด์จาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด นี่คือ 3 ตัวใหม่ที่ อาร์เซน่อล คว้ามาได้ในตลาดซัมเมอร์นี้

ไค ฮาแวร์ตซ์, ยูร์เรียน ทิมเบอร์ และ ดีแคลน ไรซ์ ...ให้ย้อนไปกะเก็งกันสัก 1-2 เดือนก่อน คงยากนักที่จะมีใครทายถูกว่าชื่อเหล่านี้จะเป็นขุมกำลังใหม่ที่ มิเกล อาร์เตต้า จิ้มเลือกมาใช้งาน โดยเฉพาะว่าสามคนนี้ ผลาญงบของ อาร์เซน่อล ไปถึงกว่า 200 ล้านปอนด์ทีเดียว

ก็มัดรวมกันมาไว้ตรงนี้...นี่คือหลายเรื่องที่คุณ (อาจ) ยังไม่รู้ของ 3 ตัวใหม่ อาร์เซน่อล ทั้ง ฮาแวร์ตซ์, ทิมเบอร์ และ ไรซ์

ไค ฮาแวร์ตซ์

ทั้งที่เล่นได้ไม่สวยนักกับ เชลซี ในตลอดซีซั่นก่อน แต่ก็กลายเป็นตัวเลือกสุดเซอร์ไพรส์ที่ มิเกล อาร์เตต้า คว้ามาเสริมทัพด้วยสนนราคาหนักข้อถึง 65 ล้านปอนด์ ชนิดว่า เชลซี ยิ้มกริ่มประเคนให้แต่โดยดีเลยทีเดียว

• เกิดในครอบครัวระดับปานกลาง

คุณพ่อ ราล์ฟ เป็นนายตำรวจ ส่วนคุณแม่ แอนน์ เป็นทนายความ ดังนั้นจึงถือว่า ไค ฮาแวร์ตซ์ เติบโตมาในครอบครัวระดับปานกลางของเมืองอาเค่น ประเทศเยอรมนี พร้อมกับกระโจนเข้าสู่วงการฟุตบอลอย่างรวดเร็วมาก เข้าสู่แคมป์ อเลมานเนีย มาเรียดอร์ฟ ตอนปี 2003 หรืออายุแค่ 4 ขวบเท่านั้น ก่อนย้ายไป อเลมานเนีย อาเค่น และ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในที่สุด

• สองนัด 1 ประตู

ช่วงพีคของ "กลางรุกดาวรุ่ง" ที่เล่นให้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เกิดขึ้นในซีซั่น 2018/19 ที่หนุ่มวัย 19 ถือเป็นทีเด็ดของกุนซือ ไฮโค แฮร์ลิช และ ปีเตอร์ บอสซ์ (เข้าคุมต่อต้นปี 2019) นอกเหนือจาก ยูเลียน บรันท์, เลออน ไบลี่ย์ หรือ เควิน โฟลลันด์ โดยที่ ฮาแวร์ตซ์ พังตาข่ายไปถึง 20 ลูกจากการเล่นรวม 42 นัดในทุกรายการ หรือตีเฉลี่ย 2 นัดต้องมีเกือบๆ 1 ประตูเลยทีเดียว

• รองดาวซัลโวสิงห์

สำหรับภาพจำในช่วงของการเล่นให้ เชลซี นอกจากประตูชัยสยบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 แล้ว ก็คือผลงานภาพรวมของซีซั่น 2021/22 ในการทำทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล

แม้จะจบมือเปล่า ไม่อาจคว้าแชมป์รายการใดให้ เชลซี ได้ในตอนจบของปีนั้น (แต่มี ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับ สโมสรโลก ช่วงกลางซีซั่น) แต่ ฮาแวร์ตซ์ ก็ประกาศชื่อตัวเองในฟุตบอลอังกฤษอย่างเต็มเสียง กดไปถึง 14 ประตูในทุกรายการ เป็นรองดาวซัลโวสโมสร ตามหลัง โรเมลู ลูกากู ลูกเดียวถ้วน

• ชัดเจนว่าเป็นกองกลาง

ควรต้องถือว่า ฮาแวร์ตซ์ ล้มเหลวค่อนข้างชัดกับการถูก เกรแฮม พ็อตเตอร์ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จับไปยืน "หน้าเป้า" ให้กับ เชลซี ซีซั่นก่อน ซึ่งผลงาน 9 ประตูจาก 47 นัด และฟอร์มการเล่นที่ถูกประเมินคะแนนแค่ 3/10 หรือ 4/10 ในหลายๆ เกม คือตัวฟ้อง

และถ้า อาร์เตต้า คว้าเอา ฮาแวร์ตซ์ เข้ามาในฐานะ "ศูนย์หน้า" มาเบียดแย่งตำแหน่งกับ กาเบรียล เชซุส, เอ๊ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หรือ โฟลาริน บาโลกัน ก็คงน่าขำไปหน่อย -- มันจึงมีข่าวว่า อาร์เตต้า เล็งจะมอบบทบาท "มิดฟิลด์เบอร์ 8" ให้เขามากกว่า

อีกหนึ่งหลักฐาน, นอกเหนือจากผลงานช่วงแจ้งเกิดกับ เลเวอร์คูเซ่น แล้ว, ก็คือการที่ "ไอดอล" ของตัวเขา เป็นนักเตะ "กองกลาง" แทบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะ ซีเนอดีน ซีดาน, กาก้า, อันเดรส อิเนียสต้า, โรนัลดินโญ่ หรือ โทนี่ โครส โดยเฉพาะรายหลังสุดที่ ฮาแวร์ตซ์ ยอมรับว่า ลอกเลียนวิธีการเล่นหลายๆ แบบมาจากรุ่นพี่ร่วมแคมป์อินทรีเหล็กรายนี้

ยูร์เรียน ทิมเบอร์

ปราการหลังดาวรุ่งทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ถูกคว้ามาเสริมตัวเลือกเกมรับของ มิเกล อาร์เตต้า แบบเซอร์ไพรส์พอตัว (เมื่อ ลิเวอร์พูล เป็นข่าวเชื่อมโยงหนักกว่า) แต่ก็ควรถือเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดของ อาร์เตต้า ซึ่งชัดเจนว่าหลังบ้านของพวกเขามีรอยตำหนิ โดยเฉพาะตอนเมื่อ วิลเลี่ยม ซาลิบา ล้มเจ็บไป

• สาดแข้งตั้งแต่ 4 ขวบ

เจ้าหนูทิมเบอร์ เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมในเมืองเกิด อูเทร็คท์ อย่าง DVSU ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ หรือตอนที่ยังไม่รู้ภาษาเต็มที่เลย ก่อนจะเข้าแคมป์เยาวชน เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม ตอน 6 ขวบ และอีกสี่ปีถัดมา (2014) ก็โยกสู่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และเทิร์นโปรได้สัญญาอาชีพกับ อาแจ็กซ์ นั่นเอง

• ควินเตน ทิมเบอร์

นอกจาก ยูร์เรียน แล้ว ครอบครัวทิมเบอร์ยังได้ภาคภูมิใจกับฝาแฝดอีกคนอย่าง ควินเตน ทิมเบอร์ ที่ก็โตมาในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเช่นเดียวกัน

กระนั้นเส้นทางของ ควินเตน ที่เล่นตำแหน่งกองกลาง ดูจะสวนทางกับ ยูร์เรียน อยู่พอตัว เมื่อแม้ว่าจะเดินตามกันในตอนเป็นเยาวชนเพื่อเข้าสู่ทั้ง เฟเยนูร์ด และ อาแจ็กซ์ แต่ ควินเตน กลับแจ้งเกิดไม่ได้ในทีมชุดใหญ่ของ อาแจ็กซ์ จนถูกปล่อยให้ อูเทร็คท์ (2021) และล่าสุดมาอยู่กับ เฟเยนูร์ด ในปี 2022 เป็นต้นมา

• ตัวจริงแต่เด็ก

ยูร์เรียน สามารถตั้งหลักกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้อย่างแข็งแกร่งในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กและแบ็กขวา โดยขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เต็มตัวในซีซั่น 2020/21 ตอนอายุแค่ 19 ภายใต้การทำทีมของ เอริค เทน ฮาก พร้อมกับครองแชมป์ เอเรดิวิซี่ ทันทีที่ขึ้นมาเล่นด้วย และโดยเฉพาะว่ามีปีที่สุดยอดไปเลยกับซีซั่นก่อนโน้น 2021/22 ที่ลงสนาม 43 นัด ซัด 3 ประตู เหมาคว้าทั้งรางวัลนักเตะแห่งปี Player of the Year และ Talent of the Year ของลีกกังหันลม

ตอนนี้ที่ยังคงจัดเป็นดาวรุ่งวัย 22 ทิมเบอร์ อำลา อาแจ็กซ์ มาด้วยสถิติลงสนามสูงถึง 121 นัด ไม่นับรวมตอนเล่นทีมเยาวชน ยอง อาแจ็กซ์ (Jong Ajax) อีก 39 เกม

• 34 - 38.5

ถือว่า อาร์เซน่อล สามารถเอาชนะทั้ง บาเยิร์น มิวนิค, แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ได้ในการคว้าตัว ทิมเบอร์ เข้าเสริมเกมรับ ด้วยการชนะราคาประมูลที่ 34 ล้านปอนด์ ซึ่งสามารถขยับขึ้นได้เป็น 38.5 ล้านปอนด์ตามผลงานในอนาคต ซึ่งเซนเตอร์แบ็กดัตช์เข้าไปสานต่อเบอร์ 12 ที่ปีก่อนเป็นของ วิลเลี่ยม ซาลิบา (ซาลิบา ขยับไปเบอร์ 2)

ดีแคลน ไรซ์

100+5 ล้านปอนด์ สถิติสูงสุดของสโมสร อาร์เซน่อล และยังเป็นสถิติเทียบเท่า แจ๊ค กรีลิช (แอสตัน วิลล่า ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2021) แต่ก็จะทำลายสถิติทันทีหาก ไรซ์ พาทีมตีตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ในแต่ละปี (จ่ายปีละ 1 ล้านปอนด์, ไรซ์ ต้องเล่น 60% ขึ้น)

• อังกฤษ-ไอร์แลนด์

อยู่ในเกาะอังกฤษครือกัน แต่ ไอร์แลนด์ ถือเป็นเอกเทศอย่างสิ้นเชิงโดยไม่ถูกนับรวมเป็น United Kingdom ด้วย ซึ่งในส่วนของ ดีแคลน ไรซ์ แม้จะเป็นชาวลอนดอนแต๊ๆ โดยกำเนิด แต่ความที่มีเชื้อสายไอริชจากรุ่นปู่รุ่นย่า ก็ทำให้เขาถูกเรียกตัวจาก ทีมชาติไอร์แลนด์ รุ่นเยาวชน ยู-16 ให้เข้าติดธงตั้งแต่ตอนเป็นเด็กปั้นในอะคาเดมี่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เริ่มที่ ไอร์แลนด์ ยู-16 ต่อด้วย ยู-17, ยู-19, ยู-21 จนกระทั่งได้ลงเล่นให้ ไอร์แลนด์ชุดใหญ่ มาแล้วด้วย 3 นัด ในช่วงปี 2018โชคดีเป็นของ อังกฤษ ที่ทั้ง 3 เกมของ ไรซ์ ในเครื่องแบบยักษ์เขียว คือเกม "อุ่นเครื่อง" ทั้งสิ้น (0-1 ตุรกี, 0-2 ฝรั่งเศส, 2-1 สหรัฐฯ) ไม่ใช่เกมทัวร์นาเมนต์เป็นทางการ ซึ่งภายใต้กฎใหม่ของ ฟีฟ่า เท่ากับเขายังมีสิทธิ์เปลี่ยนทีมชาติได้อยู่ ซึ่ง ไรซ์ ก็เลือกเปลี่ยนมาเล่นให้ อังกฤษ ช่วงปี 2019 เป็นต้นมา จนถึงตอนนี้รับใช้สิงโตคำรามไปแล้ว 43 นัด ได้ไป ยูโร 2020 และ ฟุตบอลโลก 2022 ด้วย

• คนที่ เชลซี ไม่เอา

เพราะกว่าจะซิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน ข้อเท็จจริงที่เจ็บปวดข้อหนึ่งของ ไรซ์ คือในวัยเด็ก เขาเคยโดน "คัดทิ้ง" จากอะคาเดมี่ของ เชลซี มาแล้ว ภายหลังเข้าร่วมแคมป์เยาวชนทัพสิงห์น้ำเงินอยู่นานถึง 7 ปี (และสนิทกับ เมสัน เมาท์ ที่นั่น) เริ่มต้นตั้งแต่ตอนอายุ 7 ขวบในปี 2006

ไม่มีการเผยเหตุผลที่แท้จริงของการโดนปล่อยออก แต่หลังจากเข้าทดสอบฝีเท้ากับอีกทีมในกรุงลอนดอนอย่าง เวสต์แฮม แล้ว ไรซ์ ก็ได้เริ่มต้นกับอะคาเดมี่ขุนค้อนแทน ในปี 2013 ยาวๆ ไปจนขึ้นชุดใหญ่

• หลัง-กลาง

เพราะสูงใหญ่ (185) ทักษะเยี่ยม ทางบอลดี ทางบ้านก็ดี ทำให้ ไรซ์ สามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรับและเซนเตอร์แบ็ก ซึ่งการใส่ชื่อในทีมชุดใหญ่ เวสต์แฮม ปีแรกที่ขึ้นชั้นมาเล่นเต็มตัว (2017/18) ภายใต้การดูแลของกุนซือ สลาเวน บิลิช นั้น ดาวรุ่งวัย 18 ยังถูกระบุตำแหน่งว่าเป็น "กองหลัง" อยู่เลย แม้ว่าเมื่อถึงเวลาลงสนามจริง จะถูกใช้ในแดนกลางมากกว่าก็ตาม

• คุณพ่อมือใหม่

ไรซ์ คบหาดูใจกับแฟนสาว ลอเรน ฟรายเยอร์ มาได้ราว 7-8 ปีแล้ว หรือตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็กใหม่ทีมชุดใหญ่ เวสต์แฮม โดยแม้จะไม่ได้เผยเป็นทางการ แต่สื่ออังกฤษก็เล่นข่าวว่า ทั้งคู่มีพยานรักแล้ว 1 คน เป็นลูกชาย ที่ถึงตอนนี้เพิ่งอายุขวบเดียวเท่านั้น (เกิด ส.ค. 2022) ซึ่งการที่ลูกยังเล็กมากนี้เองก็อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ ไรซ์ เต็มใจอย่างยิ่งในการย้ายสู่ อาร์เซน่อล ที่ทำให้เขาไม่ต้องยกครอบครัวย้ายบ้านไปไหนนั่นเอง

• เลขที่ออก 41

คนละเรื่องกับเลขที่ออก 62 เมื่อบ่าย โดยพบว่า ดีแคลน ไรซ์ ตัดสินใจเลือกหมายเลข 41 ไปใช้กับ อาร์เซน่อล ในซีซั่นใหม่นี้ ทั้งที่เบอร์ต่ำๆ ก็มีโอกาสจะว่างหลายตัว เช่น 3 ของ คีแรน เทียร์นี่ย์ หรือ 5 ของ โธมัส ปาร์เตย์ ที่ทั้งสองถูกคาดหมายว่าจะย้ายออกในเร็ววัน หรือที่ยังว่างอยู่จริงๆ ก็มีอาทิ 22, 28, 34, 36, 37, 38, 39 หรือ 40

แต่ ไรซ์ เลือกรับเบอร์ 41 ซึ่งก็ด้วยเหตุผลว่าเพราะ 41 คือเบอร์ที่เขาได้ใช้มาตั้งแต่เป็นเยาวชน สวมใส่มันออกทริปแรกในชีวิตที่สหรัฐฯ ร่วมกับอะคาเดมี่ค้อน ลากยาวจนถึงที่ขึ้นเล่นชุดใหญ่ เวสต์แฮม ส่งผลให้ 41 ถือเป็น "เบอร์ประจำตัว" มาจนถึงซีซั่นที่ผ่านมา โดยจะใช้เบอร์ที่ต่างไป (4-5-7-8-16) ก็ตอนที่เล่นทีมชาติอังกฤษเท่านั้น

พอย้ายมายัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แล้วพบว่า 41 ยังว่าง...ก็เสร็จโจรสิครับเจ้านายยยย