สิ่งที่ต้องพูดถึงหลังเกม: แบล็คพูล 0-3 อาร์เซนอล
แบล็คพูล มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาเคยพลาดท่าพ่าย อาร์เซนอล อย่างหวุดหวิดในเกม ลีกคัพ ฤดูกาลนี้ แต่คราวนี้ผู้มาเยือนไม่มีความผิดพลาดให้เห็น เมื่อสามารถบุกมาโค่นเจ้าถิ่นขาดลอย 3-0 ทะยานสู่รอบต่อไป
ไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างในเกมนัดนี้
5. วิลล็อค ยังเด่นต่อเนื่อง
หลังจากทำผลงานได้ดีในเกม ยูฟา ยูโรป้าลีก โจ วิลล็อค ได้โอกาสกลับมาลงสนามเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในเกม เอฟเอคัพ รอบ 3 ร่วมกับคู่หูในแนวรุกอย่าง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และเขาก็ทำได้ดีอีกครั้งเมื่อจัดการเหมา 2 ประต่วยให้ทีมเข้ารอบไปได้อย่างไม่ยายเ็น
วิลล็อค ทำประตูขึ้นนำให้กับทีมในนาทีที่ 11 จากจังหวะซ้ำลูกฟรีคิกของ อารอน แรมซีย์ ที่ไปชนเสากระดอนเข้าทางเขา ส่วนลูกที่ 2 ในนาทีที่ 37 ก็เป็นการเข้าซ้ำจากจังหวะที่ เอ็นเคเทียห์ ยิงไปติดบล็อคของผู้เล่น แบล็คพูล ก่อนหน้า นอกจากนี้เขายังส่งบอลเข้าประตูได้ีกครั้งในครึ่งหลังด้วย แต่ดันถูกจับล้ำหน้าเสียก่อน ทำให้ชวดโอกาสทำแฮตทริกอย่างน่าเสียดาย
สำหรับเด็กวัย 20 ปี การลงมาช่วยทีมและทำประตูสำคัญ ๆ ให้ทีมได้ย่อมเป็นเรื่องดีเสมอ และเราอาจได้เห็นเขาบ่อยขึ้นในเร็ว ๆ นี้
4. อนาคตที่ไม่แน่นอนของ เช็ค
แม้ว่า อูไน เอเมรี จะออกมาปฏิเสธข่าวความสนใจ เคย์ลอร์ นาบาส และ ปีเตอร์ เช็ค ยังคงได้รับโอกาสลงเล่นในเกมถ้วย แต่อนาคตของเขากับ อาร์เซนอล ก็ดูจะไม่แน่นอนขึ้นกว่าเดิมเท่าหร่ เมื่อเขายังคงมีปัญหากับการเล่นตามแผนของ เอเมรี เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
นายทวารชาวเช็คยังไม่สามารถใช้เท้าได้คล่องจนเกือบเสียท่าครั้งนึง ซึ่งนี่น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ แบรนด์ เลโน ยังยึดมือ 1 อย่างเหนียวแน่นแม้จะก่อความผิดพลาดบ่อย นอกจากนี้ เช็ค ยังดูจะมีปัญหาในเรื่องของการตัดสินใจ ที่หลาย ๆ ครั้งเขามักออกมาเสี่ยงโดยไม่จำเป็น และหลาย ๆ ครั้งการออกบอลของเขาก็ไม่แม่นกับเพื่อนร่วมทีม
ของดีของเขาอย่างเดียวในตอนนี้ก็คือประสบการณ์ที่ข้นขลัก ซึ่งช่วยในเรื่องของการยืนตำแหน่งกับการสั่งงานในแผงหลัง แต่ด้วยวัย 36 ปีและยังต้องการเล่นมากกว่านี้ บางทีเขาคงอยู่กับทีมใหญ่ ๆ ปีนี้เป็นปีสุดท้ายเท่านั้น
3. โอกาสของ มาฟูมบี
ปกตินายทวารสำรองของทีมระดับ พรีเมียร์ลีก ก็แทบจะไม่ได้ลงเล่นอยู่แล้ว ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นนายทวารสำรองของทีมจากลีกรองอย่าง แบล็คพูล โอากาสที่จะได้ลงเล่นในเกมสำคัญ ๆ จะน้อยขนาดไหน เพราะฉะนั้นเมื่อนายทวารมือ 1 ของทีมอย่าง มาร์ค ฮาวเวิร์ด ได้รับบาดเจ็บ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อทีม แต่ คริสโตเฟอร์ มาฟูมบี นายทวารสำรองก็คงยิ้มอยู่ในใจกับโอกาสที่จะได้โชว์ผลงานกับทีมใหญ่อย่าง อาร์เซนอล
แม้ว่าจะมีเวลาในสนามไม่ถึงครึ่งชั่วโมง และทีมของเขาก็เสียเพิ่มอีกลูก แต่ มาฟูมบี ในวัย 24 ปีก็ยืดอกได้ว่าครั้งนึงเขาเคยดวลกับ อาร์เซนอล มาแล้ว และเขาก็ได้โอกาสเซฟไป 3 ครั้งในเกมนี้ ซึ่งนับรวมจังหวะที่เขาออกมาบล็อคลูกยิงของ แรมซีย์ นอกเขตโทษด้วย
2. เรื่องน่าหนักใจในแผงกองหลัง
การไม่มีทั้ง ร็อบ โฮลดิ้ง และ คอนสตันตินอส มาฟโรปานอส ก็ว่าน่าเหนื่อยหน่ายแล้วสำหรับ อาร์เซนอล แต่เมื่อในเกมนี้ที่พวกเขาตัดสินใจประกาศชื่อ โลร็องต์ กอสเซียลนี ให้เป็นกองหลังตัวจริง พวกเขาก็ต้องเสียกองหลังฝรั่งเศสรายนี้ไปในการวอร์มอัพ และทำให้ เอเมรี ต้องหันมาใช้ สเตฟาน ลิชท์ชไตเนอร์ แทน
จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่า กอสเซียลนี จะเจ็บมากน้อยแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าการซื้อเซ็นเตอร์แบ็คคนที่ 6 เข้ามาดูจะเป็นเรื่องที่ต้องทำจริง ๆ มากกว่าเป็นแค่ทฤษฎีเสียแล้ว
1. ปัญหาภายในของ แบล็คพูล
แม้ว่าจะได้โอกาสกลับมาแก้ตัวอีกครั้งกับ อาร์เซนอล หลังจากที่ทั้งคู่เพิ่งเจอกันใน คาราบาวคัพ ฤดูกาลนี้ แต่แฟนบอลของเจ้าถิ่นดูจะไม่สนใจเรื่องคู่แข่งมากไปกว่าปัญหาภายในสโมสรเท่าไหร่ เมื่อที่นั่งจำนวนมากในสนาม บลูมฟิลด์โร้ด ถูกปล่อยร้าง
ปัญหาภายในของ แบล็คพูล เรื้อรังมานานกว่า 3 ทศวรรษ นับตั้งแต่ตระกูล ออยสตัน ซื้อทีมไปด้วยราคาเพียง 1 ปอนด์ หลังจากนั้น แบล็คพูล มีแต่ความหายนะ ตระกูล ออยสตัน หมุนเวียนกันขึ้นมาเป็นเจ้าของทีม แต่ไม่เคยมี ออยสตัน คนไหนที่คิดจะปรับปรุง สนามซ้อมหลาย ๆ ส่วนใช้การไม่ได้ สนามจริงไม่มีคนคอยทำความสะอาด เคยมีกรณีฉาวที่โค้ชของ แบล็คพูล ต้องออกเงินส่วนตัวขอเช่าสนามซ้อมที่อื่นเพราะสนามซ้อมทีมตัวเองใช้การไม่ได้ นี่ยังไม่นับที่ตระกูล ออยสตัน เบี้ยวค่าตัวนักเตะบางคนจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือแม้กระทั่งฟ้องร้องแฟนบอลทีมตัวเองเพราะรับไม่ได้กับการโดนด่าผ่านโซเชียลมีเดียก็มีมาให้เห็นแล้ว
30 กว่าปีที่แสนสาหัสของ แบล็คพูล ยังคงดำเนินต่อไป แต่ปี 2562 อาจจะเริ่มเห็นผลอะไรบ้างเมื่อแฟนบอลเริ่มออกมาต่อต้านกันแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทีนี้ก็อยู่ที่ ออยสตัน แล้วว่าจะยอมลงจากหลังเสือดี ๆ หรือไม่ หรือแฟนบอลจะเป็นฝ่ายโชคร้ายต้องอยู่กับ ออยสตัน ต่อไปแบบไม่มีกำหนดสิ้นสุด