ยกแรกเสร็จเรียบร้อยโรงเรียน อาร์เซน่อล สำหรับภารกิจต้องพิชิต บาเยิร์น มิวนิค ให้จงได้ หากไม่อยากร่วงศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มหนแรกในรอบ 15 ปี 

http://www.siamsport.co.th/Column/151030_136.html

        ใจดีสู้เสือ

        สุภาษิตไทยมีมนต์ขลัง.. แต่ไม่ถึงกับต้องสักเสือเผ่นแต่อย่างใด

        เพราะหากเราไม่หวั่นไหวไปกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อต้องเจอกับสิ่งที่น่ากลัวหรือภัยอันตราย เช่นกล้าบู๊กับเสือแม้ช่วงนี้มันจะอย่างดุอยู่ไม่หน่อยก็ตาม พี่เสือก็พี่เสือเถิดครับมีหรือจะหาญสู้นายพรานชื่อ “ปืนโต” ได้.. ฮี่ฮี่

        แม้รูปเกมจะเป็นรองแต่ในเมื่อเค้านับคนยิงเข้าเป็นผู้ชนะ ดังนั้นฝ่ายกำชัยจึงต้องเป็น “เดอะ กันเนอร์ส” แน่นอนครับ เพราะเปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ลั่นไก “เสือใต้” เสียชีวิต 2-0

        ทีมดังจากเกาะอักฤษ ซิวสามแต้มแรกได้สำเร็จ ขยับรั้งอันดับสาม เหตุลูกได้เสียดีกว่า ดินาโม ซาเกร็บ ส่วนท่านผู้นำไม่ต้องสืบครับเป็นของ แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน 3 ฤดูกาลล่าสุด ซึ่งเฮตั้งแต่สองนัดแรกอยู่เลี้ยว ตามมาด้วย โอลิมเปียกอส ที่มีคะแนนเท่ากัน แต่ยิงน้อยแถมเสียเยอะกว่าด้วย

        จะข้ามไปใช้ความคิดจินตนาการถึงการดวลยกสอง ของ บาเยิร์น มิวนิค กับ อาร์เซน่อล ณ อัลลิอันซ์ อารีน่า ในวันพุธหน้าเลยมันก็ใช่ที่ เลยขออนุญาตพาดพิงผลงานบอลถ้วยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาของทั้งคู่สักหน่อย (มั้ง) 

        โดย “เสือแห่งแคว้นบาวาเรีย” หลังจากบุกไปพ่าย “ไอ้ปืนใหญ่” ก็ฟื้นตัวเร็ว กลับมาเป็นสัตว์ร้ายตัวเดิม เปิดบ้านไล่ขย้ำ เอฟซี โคโลญจน์ แบบญาติจำศพไม่ได้ 4-0 ซิวชัย 10 นัดรวด เป็นสถิติสตาร์ตแหล่มสุดในบุนเดสลีกา เยอรมัน

        ครั้นบุกรัง "หมาป่าเมืองเบียร์" เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก ในศึกเดเอฟเบ โพคาล รอบ 32 ทีม ก็ยังโชว์โหดต่อเนื่อง บุกกัด 3-1 ซึ่งต้องขอบอกว่า เสืออำมหิตตัวนี้ เหนือกว่าเยอะครับแม้นจะเป็นอาคันตุกะก็ตาม

        ประตูแรกในนาที 15 ดั๊กลาส คอสต้า แสดงให้เห็นว่าค่าตัว 30 ล้านยูโร ไม่ได้แพงเกินจริงเลยสักกะติ๊ด เมื่อโชว์การแตะหนีแข้ง โวล์ฟส์ ดื้อๆ ก่อนจะตะบันหักข้อด้วยซ้ายระยะประมาณ 22 หลา ชนิดถ้าไม่ตั้งใจดูจริงจังจะเห็นลูกบอลอีกทีก็ตอนไปนอนเป็นเพื่อนตาข่ายแล้ว จนผมเผลอพ่นคำผรุสวาทด้วยความตกตะลึง เพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจังหวะเข้าทำจะสปีดเร็วกว่านรกขนาดนั้น แถมลูกยิงยังพุ่งแรงปานบั้งไฟยโสธรอีกต่างหาก

        ลูกแรกผ่านไป 2-3 ก็ตามมาในนาที 20 และ 34 จากผลงาน โธมัส มุลเลอร์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมันซึ่งรับบทมือปืนหน้าปากประตู.. โป้งหายๆ โดยการถวายพานของ ดาวิด อลาบา ที่เกมนี้เป็นปี่เป็นขลุ่ยกับ คิงส์ลี่ย์ โกม็อง ดีเหลือเกินฮะ พานให้นึกถึง “เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด” ตามแยกบนท้องถนนเลยทีเดียว

        ก่อน “แชมป์เก่า” จะได้ประตูปลอบใจ จากจังหวะ มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ แทงทะลุช่องเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ อันเดร เชือร์เล่ หลุดเข้าไปซัดในนาทีสุดท้าย

         “เสือใต้” เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แบบสบายๆ หายห่วง

        โดยวันนี้หากบุกไปงับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ได้ ลูกทีมของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า จะทำสถิติสตาร์ตในลีกดีสุดในประวัติศาสตร์ (ชนะ 11 นัดรวด) เทียบเท่ากับ ท็อตแน่ม ฮ็อทเปอร์ ซึ่งเคยทำไว้ตั้งแต่ซีซั่น 1960-61โน่นเลย

        ถึงตรงนี้โอกาสสูงเหลือเกินที่ บาเยิร์น มิวนิค จะทำสำเร็จ... ชนิดต่อ 1/100, 1/1,000 ยังไม่กล้าแหย็มรองเลยก็แล้วกัน ว่าแล้วก็สักร้อยไหม? ฮี่ฮี่

        ได้เวลาข้ามฟาก..

         “ปืนโต” ก็ผลงานไม่หยอก หลังจาก โป้ง “พี่เสือ” สิ้นชีพ ก็เดินหน้าซิวชัยในเกมลีกได้ตามเป้า แม้ช่วงท้ายจะโดน เอฟเวอร์ตัน กดดันหนักหวังแบ่งแต้มกลับบ้านแต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ น่อล ซัลโว 2-1 เฮ 4 นัดติด มี 22 แต้มเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ แต่ลูกได้เสียเป็นรองเลยรั้งแค่รองฝูง

        แต่พอคล้อยหลัง 3 วันลงเล่นบอลถ้วยน้อยสุดอย่างแคปิตอล วัน คัพ อังกฤษ รอบ 16 ทีมสุดท้าย อาร์แซน เวนเกอร์ ซึ่งจัดชุดผสมบุกรัง "นกเค้าแมว" เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ผลงานดันกลับตาลปัตรเยอะพอสมควรเพราะเล่นพ่าย ขาดลอย 0-3

        นี่ถ้ากำลังเรียนมหา’ลัยอยู่ เค้าให้สิ้นสภาพนักศึกษาเลยเรียกนะเนี่ย

        ตกรอบแบบเสียผู้เสียคนไม่พอ ยังต้องมาเจอข่าวร้ายฟาดสองดอกในแมตช์เดียวอีกต่างหาก เพราะล่าสุด อาร์แซน เวนเกอร์ ออกมายืนยันแล้วว่า ธีโอ วัลค็อตต์ กับ อเล็กซ์ อ็อดซ์เลด-แชมเบอร์เลน สองนักเตะแนวรุกไวปานวอกของทีม มีปัญหาบาดเจ็บ (เจ็บน่อง, เอ็นหลังหัวเข่า ตามลำดับ) หมดสิทธิ์ช่วยทีมจนกระทั่งหลังเกมพักเบรกทีมชาติในเดือนพฤศจิกายนนี้  

        "ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหลังจบเกมนั้น พวกเขาหมดสิทธิ์ช่วยทีมแต่ผลการสแกนจะออกมาในวันนี้ (วันพฤหัสบดี ) ซึ่งก็ราวๆ 48 ชั่วโมงหลังจบเกม เราหวังว่าพวกเขาจะเจ็บไม่หนัก แต่แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่สามารถลงเล่นได้จนกระทั่งจบเกมพักเบรกทีมชาติ" นายใหญ่เลือดน้ำหอม กล่าว

        เป็นอันว่าชวดแน่ครับเกมเจอ  สวอนซี ซิตี้, บาเยิร์น มิวนิค และศึกนอร์ธ ลอนดอนดาร์บี้ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์   

        แต่ชีวิตใครมันจะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดขนาดนั้นก็ต้องข่าวดีกันบ้างสิเนอะ เพราะมีข่าวลอดออกมาแล้วว่า บอร์ดบริหาร อาร์เซน่อล เตรียมจับ กุนซือมาดละเมียด ต่อสัญญาใหม่ถึงปี 2019 หลังจากจะครบวาระในอีก 2 ปีข้างหน้า

        แหม.. ก็ผลงาน “ไอ้ปืนใหญ่” ลอยลมบน ราวกับเพลงของอาจารย์สีเผือกขนาดนี้ ไม่ต่อน่ะสิแปลกว่าป่ะ “กูนเนอร์ส”          

        เรื่องในลีกเอาไว้ก่อน เพราะยังต้องลุ้นอีกยาวจนถึงอยุธยาโน่นเลย แต่สิ่งที่ต้องคิดหนัก&วางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ตอนนี้ก็คือเกมบุกเยือน อัลลิอันซ์ อารีน่า ถิ่น พี่เสือ เพราะถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาโอกาสลิ่วรอบน็อกเอาท์แทบจะมอดทันที (หากจะเข้ารอบก็ต้องลุ้นหลายตลบพอดูครับ)

        ซึ่งผมว่า (คหสต.) “ซือเจ้” เล่นเหมือนนัดแรกเหมาะสมสุดแล้ว คึกเป็นม้าขยันไล่-ขยันแย่งเข้าไว้ อดทนรอจังหวะพลาดแล้วสวนกลับ เพราะมีความเร็วเป็นอาวุธเด็ด ครั้นจะไปเพรสซิ่งแข่งกับ เจ้าถิ่น คงใช่เรื่องฮะขนาดในบ้านตัวเองก็เห็นๆ กันอยู่

        โอกาสบุก ปลิดชีพ ยอดเสือเมืองเบียร์ ยังมีฮะเพราะไปเยือนสามครั้งตั้งแต่ปี 2005 แบ่งเป็น แพ้ 1 เสมอ 1 และชนะ 1 ได้ลุ้นได้เสียวทีเดียว แถมแนวรับ (ฟิลิปป์ ลาห์ม, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา) ก็ไม่ได้ดั่งหินผาอะไรขนาดนั้นพร้อมพลาดเหมือนกัน แต่อาจจะยากส์อยู่ไม่หน่อยตรงต้องยิงให้ผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ นี่แหละ

        ยังไงเสียหากใจดีสู้เสือดุอีกที อาจย้ำแค้นก็ได้ครับ เพราะ บาเยิร์น มิวนิค ในถ้ำรุกเต็มสูบแน่ โอกาสโดนก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน

        พูดไปพูดมานักอ่านอาจจะสงสัย “เซบา” มรึง “เด็กปืน” ป่าววะอวดจัดอวยจัง บอกตรงนี้เลยครับ No! แถมออกจะปลื้ม “พี่เสือขู่คำราม” เสียด้วยซ้ำเนื่องจากแสดงซีรีส์แจ่มมาก

        แต่ที่ต้องเอาใจช่วยเป็นกรณีพิเศษก็เพราะ ณ เวลานี้ ค่าสัมประสิทธิ์ (ปัจจุบัน) ระหว่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี อยู่ที่ 67.284 กับ 63.939

        ห่างกันเพียงเอื้อมมือ 3.345 เท่านั้น

        แค่คิดถึงการโดนลดโควตาเหลือสามทีม ก็เสียวรูลำไส้ใหญ่แทนยักษ์ใหญ่จากลีกสูงสุดเมืองผู้ดีแล้ว หลังถูกจ่อชิดขนาดนี้

        แถมทั้ง เชลซี, แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด และอาร์เซน่อล โอกาสลอยลำรอบต่อไปใช่จะโสภาสถาพรเสียหน่อย เพราะทีมอื่นๆ ก็ไม่อยากจอดเหมือนกัน.. จริงมะ?

        ซึ่งในบรรดาสี่ทีมจากเกาะอังกฤษ อาการน่าเป็นห่วงสุดหาใช่ เรือ, ผี หรือ ปืน แต่หากเป็น สิงห์บลูส์ ต่างหากครับ ไฉนน่ะหรือ.. ก็เพราะ โชเซ่ มูรินโญ่ เล่นมีปัญหาภายในกับคนที่คุณก็รู้ว่าใคร แถมเฉดหัวแพทย์สาวประจำทีม พ่วงนักเตะพาเหรดฟอร์มตก อะไรๆ ก็เลยประเดประดังถาโถมเข้าใส่ ทำให้ผลงานสาละวันเตี้ยลงๆ ทุกวัน อย่างที่เห็นและเป็นอยู่นี่แหละ

        ถ้า โรมัน อบราโมวิช ยังไม่จัดการปัญหาให้สิ้นซาก เคลียร์ใจให้เรียบร้อยหรือไม่ก็จ่ายเงินชดเชย 37. 5 ล้านปอนด์ แด่ “แฮปปี้วัน” ให้รู้แล้วรู้แรดไปภายในอนาคตอันใกล้นี้

        เชื่อผมเหอะ.. แชมเปี้ยนส์ลีกรอบน็อกเอาท์จะมีสโมสรจากพรีเมียร์ลีกฯ เข้ารอบมากสุดก็แค่สามทีม?

เซบา

หมายเหตุ

ขอบคุณเพลงเนื้อหาดีๆ อย่าง ลอยลมบน ของวง คนด่านเกวียน สำหรับการนำชื่อมาสื่อความหมาย

อ้างอิงข่าวจาก www.siamsport.co.thฟ