งานที่ยังต้องทำของเวนเกอร์
TG.Thaigunners@gmail.com
+6696-293-9839

COLUMNISTS

งานที่ยังต้องทำของเวนเกอร์

1742 14-10-2015 Share

 http://www.siamsport.co.th/Column/151014_080.html  

 

เมื่อมีโปรแกรมทีมชาติมาขัดจังหวะทีมปืนใหญ่ที่กำลังไปอย่างเปรี้ยงปร้าง มองกันมุมหนึ่งบางคนอาจคิดว่านับเป็นโชคดีที่นักเตะจะได้พักกันบ้าง แต่จริงๆ แล้วนี่ถือว่าเป็นช่วง ''งานเข้า'' เสียด้วยซ้ำ 

 

        นักเตะอาร์เซน่อลเกือบทั้งหมดมีดีกรีทีมชาติด้วยกันทั้งนั้น นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องแยกย้ายกันไปตามยถากรรมตามแต่ว่าบ้านใครไกลใกล้แค่ไหน ห่างไกลหูตาของ อาร์แซน เวนเกอร์ อีกต่างหาก จึงเป็นเรื่องไม่ได้อยู่ในการควบคุม และอาจมีบางคนที่เดี้ยงกลับมาอีกต่างหาก

        ดังนั้นจึงว่าเป็นโชคดีของวัตฟอร์ด ซึ่งจะพบกันเป็นเกมต่อไปที่จะต้องเจอกับทีมปืนใหญ่ที่อาจมีฟอร์มชะงักไปบ้างก็ได้ อันนั้นก็ได้แต่ภาวนาเท่านั้นนะครับ เราก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าในความเป็นจริงนั้นจะเป็นอย่างไร

        เวนเกอร์อาจจะต้องกลับมาปรับแต่งให้ทีมกลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกที เพราะว่ามีหลายเรื่องที่เขาต้องแก้ไข และหลายอย่างที่ต้องรักษาไว้ หากหวังที่จะก้าวไปให้ถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ให้ได้

        คงจำได้นะครับว่าเมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา เวนเกอร์พูดเต็มปากเต็มคำว่าจะไม่ใช้งาน อเล็กซิส ซานเชซ ในช่วงเดือนแรกของฤดูกาล เพราะเพิ่งจะกรำงานหนักมาจากเกมโกปา อเมริกา ที่เจ้าตัวช่วยให้ทีมได้เป็นแชมป์ 2 เกมแรกที่พบกับเชลซีในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ และเปิดสนามกับเวสต์แฮมที่พ่ายในบ้านมันเสียเลย จึงไม่มีชื่อของปีกทีมชาติชิลี

        ชัดเจนว่าในเกมลีกเมื่อไม่มีอเล็กซิส อาร์เซน่อลก็อ่อนลงไปมาก ดังนั้นในเกมลีกนัดที่ 2 ที่พบกับคริสตัล พาเลซ เวนเกอร์จึงต้องแก้เกมด้วยการส่งอเล็กซิสลงไปช่วยราชการ แต่ก็ยังติดๆ ขัดๆ หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้ ทว่าเกมโดยรวมก็ดีขึ้น เพียงแต่ว่าฟอร์มของอเล็กซิสยังไม่ดีเหมือนปีที่แล้ว จนกระทั่งในเกมกับเลสเตอร์นั่นแหละที่เขาเบ่งก้อนแรกได้สำเร็จหลังจากที่ท้องผูกมานาน จากนั้นก็ไหลพรวดเลย

        ยิงเลสเตอร์ไปสาม จากนั้นก็กดแมนฯ ยูไนเต็ดไปอีกสอง ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม เติมความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเขายิงประตูให้ชิลีเอาชนะบราซิลได้ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ด้านหนึ่งเวนเกอร์ก็น่าจะพอใจที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่อีกมุมหนึ่งก็กังวลว่าอเล็กซิสจะล้าเกินไปหรือเปล่า และหากเขาไม่อาจรักษามาตรฐานนี้เอาไว้ได้อาร์เซน่อลจะเป็นอย่างไร

        ถ้างั้นก็ต้องทำอย่างที่เคยทำมาตอนเกมแรกของฤดูกาลด้วยการพักอเล็กซิสเสียบ้าง แล้วให้อีก อเล็กซ์ นึง อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน นั่นแหละ ลงเล่นในตำแหน่งเดียวกันนี้บ้าง เอาเขาไปเล่นริมเส้น และขยับเอา อารอน แรมซี่ย์ มาเล่นด้านในแทน อ้าว! ไม่ได้อีก ตรงกลางก็กลายเป็นตำแหน่งถาวรของ เมซุส โอซิล ไปเสียแล้ว งั้นก็เหมือนเดิมไปก็แล้วกัน

        ปัญหาก็กลับมาแบบเดิมอีกนั่นแหละครับ พอคิดพักอเล็กซิสทีมก็ฝืดเสียอีก และที่แน่ๆ คืออเล็กซิสเองก็ไม่ค่อยจะปลื้มกับเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ พอถูกเปลี่ยนตัวออกก็ยังมีงอนให้เห็น เว้นเสียแต่ว่าจะเจ็บจนต้องเปลี่ยนออกอย่างในเกมที่พบกับแมนฯ ยูฯ นั่นคือสิ่งที่เวนเกอร์กังวลว่าอาการยังไม่เต็มร้อยแล้วยังจะอยากไปเล่นทีมชาติอีก เป็นอะไรขึ้นมาทีมก็ซวยซีครับ

        เรื่องน่าห่วงของเวนเกอร์ไม่ได้มีแค่นี้ เกมรับของทีมที่ดูเหมือนจะดีแล้วแต่กลับมีรูรั่วตลอด เป็นรูที่เกิดความไม่เข้าใจ เกรงใจ ย่ามใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ ในจังหวะที่ทีมกำลังบุกแหลกให้คู่แข่งต้องลงไปตั้งรับแบบโงหัวไม่ขึ้น แต่พอได้โอกาสสวนกลับตูมเดียว แผงหลังกลับไล่ไม่ทัน นั่นคือการขาดสมาธิที่ไม่น่าเชื่อว่านักเตะอย่าง แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เอคเตอร์ เบเยริน, นาโช่ มอนเรอัล, คีแรน กิ๊บบ์ส หรือว่า มาติเยอ เดอบูชี่ พวกนี้มีดีกรีกันทั้งนั้น แต่บทจะเสียก็ไปง่ายๆ เลย

        ปัญหานี้อาจไม่ถึงขั้นที่ต้องซื้อใหม่ แต่ทำยังไงที่จะเรียกสตินักเตะเหล่านี้ให้กลับมาได้ และอยู่กับมันตลอดทั้งเกม หรือบางทีอาร์เซน่อลอาจจะต้องทำอย่างที่ ปีเตอร์ เช็ก บอกว่าต้องรู้จักชนะแบบน่าเกลียดอย่างที่เชลซีทำอยู่

        ในเกมที่เอาชนะแมนฯ ยูฯ ด้วยการยิง 3 ประตูในครึ่งแรกแล้วปิดเกมเลย แบบนั้นไม่เรียกว่าเป็นการชนะแบบน่าเกลียด แต่เป็นแบบที่กลัวหลังบ้านรั่วมากกว่า ปิดเกมกันไปเลย เอาชัวร์ไว้ก่อน แม้ว่าจะเป็นเกมที่ทำให้แฟนบอลหงุดหงิดบ้าง แต่ก็ได้ 3 แต้มอย่างที่ต้องการ หากจะเล่นน่าเกลียดเพื่อชัยชนะ ทั้งทีมคงต้องทำใจเหมือนกัน รวมทั้งแฟนบอลด้วย

        มาถึงตอนนี้แล้ว ในจุดที่เริ่มจะชัดเจนแล้วว่าโอกาสที่อาร์เซน่อลจะได้เข้ารอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มันเลือนรางเต็มที เมื่อเป็นเช่นนี้อาจจะถึงเวลาที่เขาต้องเลือกว่า หากได้อันดับ 3 ของรอบแบ่งกลุ่มแล้วเขาจะพอใจที่จะต้องไปเหนื่อยต่อในฟุตบอล ยูโรปา ลีกหรือเปล่า หรือไม่ก็จัดไปเลยว่าฟุตบอลรายการนั้นเอาไว้ให้เด็กๆ ลงไปเล่นกัน โดยไม่ต้องสนใจว่าแฟนๆ จะว่ายังไง เพื่อที่จะได้มีสมาธิกับเกมพรีเมียร์ลีกเต็มๆ

        แม้ว่าจะเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีนัก แต่พออเล็กซิสเริ่มทำให้แฟนๆ ได้ร้องซี้ดด้วยการยิงไป 5 ประตูจาก 2 เกมหลัง เมื่อดูแมนฯ ซิตี้ที่นั่งแท่นอยู่บนด้วยคะแนนที่ห่างกันอยู่แค่ 2 เท่านั้น แถมนักเตะตัวหลักๆ อย่าง ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา และ เซร์คิโอ อเกวโร่ เจ็บกันทั้งนั้น จะมากจะน้อยก็อาจเป็นเหตุผลให้ทีมเรือใบเริ่มแกว่งๆ ไปได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสให้อาร์เซน่อลเบียดขึ้นมาได้ จึงเป็นเรื่องที่เวนเกอร์ต้องวางแผนให้ดีในการจัดตัวผู้เล่นในแต่ละเกม และแต่ละรายการ

        เวนเกอร์โดนวิจารณ์อย่างมากเรื่องบริหารทีมหรือว่าจัดตัวผู้เล่น โดยเฉพาะระหว่างแชมเบอร์เลนกับอเล็กซิส ที่คนหนึ่งได้ลงเล่นน้อยไป ขณะที่อีกคนก็ดูจะรับงานมากเกินไป การหมุนเวียนผู้เล่นที่ทำให้ทีมขาดความสมดุล และเลือกช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม ที่ชัดเจนที่สุดก็คือในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกที่พบกับดินาโม ซาเกร็บ

        คนที่เขาเลือกลงสนามอย่างกิ๊บบ์ส, เดอบูชี่, แชมเบอร์เลน, อาร์เตต้า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ ดาวิด ออสปิน่า ไม่ใช่ไม่มีดี แต่ไม่ควรจะได้ลงเล่นพร้อมๆ กันเป็นแพ็กขนาดนี้ในเกมที่มีความสำคัญอย่างมาก อาร์เซน่อลหวังที่จะไปให้ถึงรอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อย แต่กลับประมาทคู่แข่งโดยดูแค่ชื่อเท่านั้น ทั้งที่เป็นเกมเยือน เกมที่สองพบกับ โอลิมเปียกอสที่ได้กลับมาเล่นในบ้าน นายทวารยังคงเป็นออสปิน่า และเขาก็ผิดพลาดจนทีมเสียประตู

        แน่นอนว่าหากทั้งสองเกมนั้นผลงานออกมาดี เวนเกอร์ก็จะได้รับความชื่นชม แต่โดยวิถีทางของฟุตบอล เขาย่อมต้องรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้น เพราะทุกคนก็งงตั้งแต่ที่ทีมประกาศรายชื่อออกมาแล้ว เวนเกอร์คงต้องละเอียดกว่านี้ในการหมุนเวียนนักเตะ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดอย่างนี้อีก

        บางทีปัจจัยแห่งความสำเร็จของอาร์เซน่อล นอกจากจะอยู่ที่การเลือกตัวผู้เล่นที่เหมาะสมกับเกม และความสมบูรณ์ของอเล็กซิสแล้ว ฟอร์มที่เสมอต้นเสมอปลายของ โอซิล ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็น

ในเกมกับแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นครั้งแรกที่โอซิลเล่นได้เยี่ยมเหมือนตอนที่เจอกับทีมเล็กๆ น่าจะทำให้ความมั่นใจของเขาเพิ่มมากขึ้นด้วย

        มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันคนนี้มักจะเล่นเหมือนตบเด็ก ทำดีเฉพาะในเกมเล็กๆ แต่พอถึงเกมชนช้าง เขากลับกลายเป็นตัวประกอบที่เข้าฉากแบบแวบๆ เท่านั้น ที่ผ่านมาในการพบกับทีมใหญ่อย่าง เชลซี, แมนฯ ยูฯ, แมนฯ ซิตี้, บาเยิร์น มิวนิค และดอร์ทมุนด์ ทั้งหมด 17 เกม โอซิลเพิ่งจะยิงได้ประตูเดียวในเกมล่าสุดที่พบกับปีศาจแดง และแอสซิสต์ในเกมนั้นก็เพิ่งจะเป็นแอสซิสต์ที่ 2 นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2013

        การเอาชนะทีมใหญ่ได้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ อาร์เซน่อลหากพวกเขาหวังที่จะไปให้ถึงแชมป์ และหากโอซิลรักษาฟอร์มล่าสุดนี้เอาไว้ได้ โอกาสนั้นก็มีมากขึ้นเช่นกัน

ศาธนันท์

ติดต่อโฆษณา : TG.Thaigunners@gmail.com PHONE : 096 443 2589

THE HONOUR

FACEBOOK : GUNNERTALK

EMAIL : TG.Thaigunners@gmail.com

TEL : +6696-293-9839